ONEPIECE0125 เขียน:ในโลกของเราล้วนเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆมากมาย ที่ใครหลายๆ คนยังไม่ค้นพบ ...
ตัวอย่างเช่น ...
... เวทมนตร์ ...
ณ โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง หมู่บ้านอัลดีลัน เมืองกานีลาร์
เหล่านักเรียนมากมายที่เดินพลุกพล่านในช่วงพักกลางวัน บางคนยังอยู่ในห้องเรียน บางคนนั่งอยู่ที่สนามเด็กเล่น บางคนก็อยู่ในห้องสมุด ซึ่งมีนักเรียนน้อยคนนักจะเข้าไป ซึ่งอันที่จริงไม่มีเลยต่างหาก เพราะห้องสมุดของที่นี่ ทั้งเก่า เหม็นอับ รก และอีกหลายๆ เหตุผลที่เด็กๆของที่นี่จะไม่ยอมเข้าห้องสมุด แต่ก็ไม่ใช่แค่นักเรียนที่จะไม่เข้าเท่านั้นนะ คุณครูทั้งหลายก็ไม่มีใครอยากย่างกรายเข้าไปใกล้ --- อ้อ ยังมีอยู่คนหนึ่ง เขาเป็นเด็กนักเรียนชายปี 3 ชื่อของเขาคือ การ์โย เขาเป็นเด็กชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่รักการอ่านหนังสือมาก เมื่อครั้งที่เขาเข้ามาเรียนที่นี่วันแรก เขาก็ตรงไปห้องสมุดทันที แม้สภาพจะดูไม่น่าชมนัก แต่ก็ยังดี ที่มีหนังสืออยู่มากพอที่จะให้เขาอ่าน
ที่ห้องสมุดแห่งนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนไม่อยากเข้าห้องสมุด ทั้งสภาพของห้องสมุดแห่งนี้ เป็นคล้ายๆบ้านไม้เก่าๆ มีรั้วโย้เย้ จะพังมิพังกั้นอยู่ข้างหน้า พอเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอหนังสือนับหมื่นเล่มวางเรียงสลับซับซ้อนกันอยู่บนชั้นวางเก่าๆ ทั้งยังมีฝุ่นจับตามชั้นวางหนังสือ ที่พื้นก็มีหนังสือวางอยู่ระเกะระกะ หนำซ้ำ หนังสือที่วางอยู่บนชั้นยังเรียงไม่เป็นระบบ บ้างวางกลับหัว บ้างก็วางอยู่ที่พื้น บ้างเล่มหน้าหาย ทั้งหนังสือเหล่านี้ยังไม่เรียงชื่อหนังสือ ไม่แบ่งประเภท ไม่แยกตามชื่อผู้เขียน หรือใดๆทั้งสิ้น ราวกับว่าไม่มีใครดูแลอย่างนั้น
ที่นี่มีบรรณารักษ์ ซึ่งก็คือ คุณ เทรา ดี คาเลย์ตาร์ เรียกสั้นๆว่า คุณคาเลย์ตาร์ก็ได้ เขาเป็นชายแก่ รูปร่างสูงใหญ่ หนวดเคราสีเทาดูรุงรัง เสื้อผ้าขาดวิ่น รวมๆแล้วเหมือนคนพเนจรมากกว่าบรรณารักษ์ ดูจากลักษณะแล้ว อายุอานามประมาณ 70 ปี เห็นจะได้ ว่ากันว่าเขาเฝ้าดูแลห้องสมุดนี้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นครูใหม่ๆ ตอนอายุ 20 กว่าปีนู่นแน่ะ ซึ่งเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ครูใหญ่ของโรงเรียนได้แจ้งให้เขาทราบถึงการปลดตำแหน่งบรรณารักษ์ของเขา เพราะ ร่างกายของเขาดูจะไม่ไหวต่อการดูแลห้องสมุด และทางโรงเรียนก็ไม่มีเงินจะจ้างเขาแล้ว แต่เขาก็ยังทำงานต่อมาเรื่อยๆ โดยไม่รับค่าจ้างจากครูใหญ่ เหตุผลก็ต่างเป็นที่สงสัยกันทุกคน ว่าในห้องสมุดนั้นมีอะไรสำคัญนักหนา แต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม ไม่มีใครกล้าเข้าไปพูดคุย เป็นเพราะแววตาที่ดุดันที่จ้องคนที่เข้ามาในห้องสมุดอย่างไม่ละสายตา และนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครอยากเข้าห้องสมุดเช่นกัน
การ์โย เดินเข้ามาในห้องสมุดในช่วงพักเที่ยง และก็ได้รับสายตาที่ดุดันจากคุณคาเลย์ตาร์เช่นเคย
“สวัสดีฮะ คุณคาเลย์ตาร์” การ์โยทักทาย ซึ่งเขาก็ทำเป็นปกติในทุกๆวันที่เข้ามาอยู่แล้ว
“...” แล้วก็ได้คำตอบเป็นหน้าตาเฉยๆจากคุณคาเลย์ตาร์อีกตามเคย
การ์โยเดินมาที่โซนวรรณกรรมเยาวชนที่เขาชอบอ่าน ซึ่งหนังสือเล่มนั้นจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก ‘ชาร์ค เชล’ หนังสือที่เขาเขียน ไม่ว่าจะเป็น ‘ทันเดอร์ มนตราปีศาจ’ ‘9 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก’ ‘ทะเล - สาป’ ‘ศาลชีวิต’ ‘เจ้าชายป่าอาถรรพ์’ และอีกหลายๆ เรื่องล้วนผ่านสายตาการ์โยมาแล้วทั้งนั้น --- การ์โยยังเดินสำรวจไปเรื่อยๆ เพื่อหาหนังสือของ เชล มาอ่าน ระหว่างที่เดินสำรวจนั้น เขาพบหนังสือที่น่าสนใจมากมาย เขากะไว้ว่าหากอ่านหนังสือของเชลครบเมื่อไร เขาจะต้องมาตามอ่านหนังสือพวกนี้แน่ๆ
การ์โย เดินไล่นิ้วมาเรื่อยๆ จนสุดชั้นวางหนังสือ ที่ไม่ได้เรียงชื่อผู้แต่ง ทำให้การ์โยเสียเวลาในการหาหนังสือนานทีเดียว แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้มากนัก หลายต่อหลายครั้งที่เขามักใช้เวลาว่างนั่งเรียงหนังสือเหล่านี้โดยแบ่งตามชื่อผู้แต่ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือของเชลที่เขาชื่นชอบนั่นเอง
“นี่ไง ฉันเจอหนังสือของเชลอีกเล่มแล้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้จะยังไม่ได้อ่านแฮะ” การ์โยหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้นวาง และหย่อนตัวลงนั่งพิงชั้นวางหนังสือ
‘เมื่อโลกถูกแยกเป็นสองส่วน โลกสองใบ ไม่อาจรวมเป็นหนึ่ง คนไม่สามารถอยู่ได้หากมีหัวใจซีกเดียว ...”
การ์โยพลิกกลับมาที่ด้านหน้า และพินิจดูที่ปกหน้าอย่างละเอียด พบว่า หนังสือเล่มนี้ดูจะเยินว่าหนังสือเล่มอื่นๆที่เขาเคยอ่านมา หรือเป็นเพราะหนังสือเล่มนี้เคยได้รับความนิยมมากกันแน่นะ การ์โยคิด ก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะของคุณคาเลย์ตาร์เพื่อยืมกลับบ้าน
ที่บ้านของการ์โย
ครอบครัวของการ์โย มีทั้งหมด 9 คน ได้แก่ การ์โย, แม่, พ่อ, ปู่อาเป, เลออง (พี่ชายคนโต), อาร่า (น้องสาว 2 ขวบ), ป้าคิเอรี่, ลุงคาเมล, และ ยายจิการ่า
พ่อกับแม่ของการ์โย ทำงานเป็นแม่บ้านและพ่อบ้านให้กับเศรษฐีคนหนึ่งที่อยู่ต่างประเทศ ทำให้การ์โยได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังมหึมา ที่มีสวนหน้าบ้าน มีสระว่ายน้ำ มีห้องสมุดที่ล็อกกุญแจ ส่วนค่าจ้างนั้นปีทั้งปีได้เงินเพียง 30,000 เปอี เท่านั้น ถือว่าน้อยมากสำหรับรายได้ต่อปีของครอบครัว
ลุงคาเมลกับป้าคิเอรี่ สองคนนี้ ขี้เกียจตัวเป็นขน ไม่ทำมาหากิน คอยอาศัยแต่พ่อกับแม่ของการ์โย เมื่อก่อน ลุงคาเมลเคยทำงานเป็นยามเฝ้าร้านค้า แต่หลับในเวลางานเลยถูกไล่ออก ส่วนป้าคิเอรี่ก็เคยทำงานในร้านอาหาร แต่ขโมยอาหารเขากินมากไป จนเจ้าของร้านจับได้ เลยถูกไล่ออกเหมือนกับลุงคาเมล นับจากนั้นมาทั้งสองคนก็ไม่ไปหางานทำอีกเลย
ปู่อาเป พิการขา นั่งอยู่บนรถเขนตลอดเวลา ไปไหนมาไหนไม่ได้ การ์โยเคยคุยกับปู่อยู่บ้างเวลาพ่อกับแม่ไม่ว่าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้คุยกับปู่เท่าไร เพราะปู่มักจะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องไม่ค่อยพูดค่อยจากับใคร
ยายจิการ่า ยายที่เก่งกาจ ยายจิการ่ามักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปลูกผักผลไม้ แม้อายุเกือบ 90 แล้วแต่ก็ยังแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยเหมือนคนอายุ 90 ทั่วไป หรือถ้าป่วยก็หายได้ด้วยยาเม็ดเดียว
เลออง เขาอายุมากกว่าการ์โย 2 ปี เขาเรียนจบแล้วและกำลังหางานทำเพื่อช่วยเหลือครอบครัว เขามักจะไม่ค่อยพูดกับคนในบ้านมากนัก ส่วนใหญ่จะเก็บตัวอยู่ในห้อง ซึ่งเป็นห้องที่นอนรวมกับการ์โย แต่ถึงจะนอนรวมกัน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยชอบการ์โยเท่าไร
การ่า เธอยังพูดไม่ถนัดปากดี แต่พูดได้ทั้งวัน พูดตามพ่อบ้าง แม่บ้าง แล้วแต่จะได้ยินเสียงใคร
ทุกคนในบ้านล้วนทำหน้าที่ของตัวเองจนบ้างครั้ง การ์โยดูเหมือนไม่มีตัวตน แต่นั่นก็เป็นปกติจนการ์โยเองเริ่มชินกับมันเสียแล้ว --- เนื่องจากฐานะทางบ้านของการ์โยไม่ดี อาหารที่เขากินจึงเป็นอาหารจากสวนของยายจิการ่า ทั้งผลไม้ ทั้งผักคนกินผักคือคนที่แข็งแรง
คนที่แข็งแรงคือคนที่กินผัก
แต่คนที่แข็งแรงกว่าคนกินผัก
ก็คือคนปลูกผักยังไงเล่า ...
เสียงยายจิการ่าดังมาจากในสวน ซึ่งมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ --- การ์โยเดินเข้ามาในห้องนอน ซึ่งมีเลอองนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน และนี่ก็เป็นกิจวัตรประจำวันของเลอองเช่นกัน
“กลับมาแล้วเหรอ เออ นี่ ฉันไปสมัครงานมา เจอหนังสือของเชลที่แกชอบ ก็เลยซื้อมาให้น่ะ ไม่รู้ว่าอ่านหรือยัง... วางอยู่บนเตียงนั่นแหล่ะ” การ์โยแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ว่าพี่ชายเขาจะมีเงินพอสำหรับซื้อหนังสือมาให้เขา เขาหยิบหนังสือบนเตียงขึ้นมาไม่ทันดูซื้อหนังสือด้วยซ้ำ เขาพลิกมาที่ปกหลัง เพื่อดูราคา
“โห นี่มันแพงมากเลยนะ ตั้ง 100 เปอี นายเอาเงินมาจากไหนกัน” การ์โยถามด้วยความสงสัย
“เอาเถอะน่า... ว่าแต่อ่านหรือยังล่ะ” เลอองยังคงก้มหน้าจดอะไรซักอย่างต่อไป
“โลกใบเดียว โดย ชาร์ค เชล เดี๋ยวๆ เนื่องในโอกาสอะไร?”
“ฉันอยากให้... ไม่ได้รึไง”
“งั้นเหรอ... ขอบใจนะ” การ์โยหยิบหนังสืออีกเล่มออกมาจากกระเป๋า แล้วเดินไปยังต้นไม้ใหญ่บนเนินหลังบ้าน
แม้วันเวลาผ่านพ้นไป โลกสองใบไม่อาจรวมเป็นหนึ่ง เวทมนตร์ไร้อำนาจ... การเจรจาไร้ผล ประตูเวทมนตร์ถูกปิด โลกสองใบขาดกันอย่างถาวร มีเพียงสิ่งเดียวที่จะเปิดประตูนั้นได้...
การ์โยเอาหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดมาจ้องดูที่ปกอย่างพินิจ เพื่อดูชื่อหนังสือเล่มนี้ ‘แยกโลก’ ใช่แล้ว 'โลกใบเดียว' เป็นเล่มต่อจากเล่มที่เขายืมมาจากห้องสมุดนั่นเอง
โลกแห่งนี้มีเวทมนตร์สีขาวที่ถูกซ่อนมาเกือบร้อยปี ประวัติศาสตร์ไม่อาจลบร่องรอยของเวทมนตร์ โลกได้จารึกเวทมนตร์ไว้ ณ ที่แห่งนั้น จงใช้มันและรวมโลกให้เป็นหนึ่ง
อ่านมาถึงตรงนี้ การ์โยพบว่า ตัวหนังสือหายไป เหลือเพียงกระดาษเปล่า เขาเปิดย้อนกลับไปหน้าก่อนๆ ก็ไม่พบตัวหนังสือใดๆเลย!
“นี่มันอะไรกัน!! ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ฉันควรรีบไปนอนใช่ไหม? หรือฉันต้องไปกินยา? หรือฉันต้องทำยังไง?” การ์โยลุกขึ้นยืน เอามือกุมศีรษะ พลางเดินวนไปวนมา
“เอาล่ะการ์โย ใจเย็นๆ ... กลับบ้านไปถามเลออง ว่าซื้อหนังสือเล่มนี้ที่ไหน แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปร้านหนังสือนั่น โอเค โอเค” การ์โย เดินกลับเข้ามาในห้อง พบว่าเลอองยังนั่งอยู่ที่เดิม
“นายซื้อหนังสือนี่มาจากไหน?” การ์โยถาม
“แถวที่ฉันไปสมัครงานน่ะสิ... แกถามทำไม?” เลอองยังไม่เงยหน้ามาจากกระดาษแผ่นเดิม
“นายไปซื้อเล่มนี้ที่ไหน...”
[ยาวไปๆๆ ขอบคุณทุกคำติชม ล่วงหน้านะคะ ^ ^] (นี่เป็นเพียงบทนำเท่านั้น ยังเหลืออีกเยอะ เตรียมตัวอ่านได้เลย )
ยาวไปๆ